บทความนี้นำมาจาก PCtoday เป็นสุดยอดเทคนิคที่สามารถทำให้ฮาร์ดดิสก์ของคุณ มีขนาดเพิ่มเป็นเกือบ 2 เท่า โดยที่คุณไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินเป็นพันๆ เพียงแค่อ่านและทำตามขั้นตอนกับบทความนี้ที่ละขั้นตอน รับรองว่าคุณจะได้เนื้อที่ฮาร์ดดิสก์เพิ่มขึ้นมาอีกเกือบ เท่าตัว!! เลยที่เดียว สิ่งที่ต้องเตรียม 1. โปรแกรม Norton Ghost 2003 จะเป็น Build เวอร์ชั่นอะไรก็ได้ 2. ฮาร์ดดิสก์ที่เราต้องนำมา Modify นั่นเอง ฮาร์ดดิสก์ตัวนี้ต้องลง Windows XP เรียบร้อยแล้ว 3. เครื่อง PC ที่ใช้งานได้และมีฮาร์ดดิสก์ที่ติดตั้งระบบปฎิบัติการ Windows XP อยู่แล้ว เริ่มลงมือ 1. นำฮาร์ดดิสก์ X มาต่อที่เครื่องพีซีในตำแหน่ง "Master" และนำฮาร์ดดิสก์ M มาต่อในตำแหน่ง "Slave" เพราะในชิ้นแรกนี้เราต้องการบูทเข้าวินโดวส์จากฮาร์ดดิสก์ X เสียก่อน 2. บูตเข้าวินโดวส์ เอ็กซ์พี จากนั้นติดตั้งโปรแกรม Norton Ghost 2003 ลงไป 3. หลังจากติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เรียกโปรแกรม Norton Ghost 2003 ขึ้นมา 3.1 ที่หน้าจอ Ghost Basic คลิ๊กเลือกที่หัวข้อ Backup 3.2 จะเข้ามาสู่หน้าจอ Backup Wizard คลิ๊กปุ่ม Next 3.3 เลือกไดร์ฟ C: เป็นไดร์ฟของฮาร์ดดิสก์ X ที่หน้าต่าง Source เลือก Destination เป็น File จากนั้นคลิ๊กปุ่ม Next 3.4 ที่หน้าจอ Create a new backup image คลิกที่ปุ่ม Browse 3.5 ให้เลือกไฟล์ Backup ไปที่ไดร์ฟ D: ซึ่งก็คือไดร์ฟของฮาร์ดดิสก์ M ที่ต่อที่ตำแหน่ง Slave นั่นเอง ตรงนี้ไม่ต้องกังวลว่าฮาร์ดดิสก์จะเหลือพื้นที่เก็บไฟล์ Backup พอหรือไม่ เพราะเราไม่ได้ Backup ลงไปจริงๆ จากนั้นตั้งชื่อไฟล์ Backup อะไรก็ได้แล้วคลิ๊กปุ่ม Save 3.6 หน้าจอนี้แสดงให้ทราบถึงว่ามีอุปกรณ์ต่อพ่วงอะไรบ้างที่เชื่อมต่ออยู่ ไม่ต้องสนใจคลิ๊ก OK ได้เลย 3.7 หน้าจอนี้ให้ใส่ไดรเวอร์สำหรับต่อพ่วงที่เห็นในหน้าที่แล้ว ไม่ต้องสนใจคลิ๊กปุ่ม Next ได้เลย 3.8 หน้าจอนี้บอกให้เราทราบว่า ต่อไปจะมีการรีสตาร์ทเครื่อง เข้าสู่ Dos Mode เพื่อรันโปรแกรม Norton Ghost ใน Dos หลังจากนั้นโปรแกรมจะพากลับเข้าวินโดวส์เหมือนเดิม ไม่ต้องสนใจอีกเช่นกัน Next ได้เลย 3.9 หน้าจอนี้จะขึ้นเตือนให้เราทำแผ่น Standard Boot Disk เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน ให้เรากดปุ่ม Continue 3.10 หน้าต่างสุดท้าย ตรงนี้ให้คลิ๊กปุ่ม Run Now แล้วเครื่องจะบอกให้รีสตาร์ทใหม่ทันที เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการใน Norton Ghost ต่อไปจะเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญแล้วครับ 4. พอรีสตาร์ทเสร็จ ขณะที่เครื่องบูทใหม่จนถึงขั้นตอนที่รายงานซีพียูและนับค่าแรมให้เราปิดเครื่องทันที!! 5. เปิดฝาเคส สลับตำแหน่งการเชื่อมต่อของฮาร์ดดิสก์นั่นคือ เอาฮาร์ดดิสก์ X มาต่อเป็น "Slave" แล้วเอาฮาร์ดดิสก์ M มาต่อเป็น "Master" แทน เช็คความเรียบร้อย แล้วเปิดเครื่องเพื่อบูทเข้าวินโดวส์ เอ็กซ์พี 6. ขณะนี้เราจะอยู่ในวินโดวส์ เอ็กซ์พี ของฮาร์ดดิสก์ M ทำตามขั้นตอนต่อไปเลยครับ 6.1 คลิกขวาที่ไอคอน My Computer เลือกเมนู Manage 6.2 จะปรากฎหน้าต่างคอนโซล Computer Management ขึ้นมา เลือกไปที่โมดูล Disk Management ในกลุ่ม Storage ทางพาเนลซ้ายมือ 6.3 รายละเอียดเกี่ยวกับสตอเรจในเครื่องจะแสดงขึ้นมาให้เห็นทางด้านขวา สังเกตุให้ดีที่แถบ Disk 1 ซึ่งก็คือ Disk X ที่เราเพิ่งจะต่อเป็น Slave และสั่ง Backup ไปแล้ว จะมีเนื้อที่ที่เก็บเป็น Unallocated partition เพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว!! นี่แหละครับเนื้อที่ปริศนาในฮาร์ดดิสก์ที่เราค้นพบ นอกจากนี้จะพบพาทิชั่นชื่อแปลก ๆที่ชื่อว่า VPSGHBOOT ขนาด 8 MB ซึ่งเกิดจากโปรแกรม Norton Ghost สำหรับทำ Virtual patition นั่นเอง ตอนนี้ก็ยังไม่ต้องสนใจมันครับ 6.4 ให้เราไปคลิ๊กขวาที่ที่ Unallocated partition เลือกเมนู New partition 6.5 จะพบหน้าต่าง New Partition Wizard คลิ๊กปุ่ม Next เพื่อไปต่อ 6.6 ตรงนี้ให้เราเลือกชนิดของพาร์ทิชั่น จะเลือกเป็น Primary หรือ Extended ก็ได้ ในตัวอย่างนี้เราเลือกเป็น Primary 6.7 กำหนดขนาดของพาร์ทิชั่น โดยดีฟอลต์แล้วมันจะสร้างพาร์ทิชั่นให้เต็มขนาด ไม่ต้องปรับแต่งอะไรครับ กด Next ผ่านได้เลย 6.8 หน้าต่างนี้จะให้เราเลือกกำหนดพาร์ทิชั่นที่เพิ่งสร้างใหม่ ให้เป็นไดร์ฟใหม่ หรือเมาส์เป็นไดเร็คทอรี่ หรือยังไม่ต้องกำหนดใด ๆ เลย ในที่นี้ให้เรากำหนดเป็นไดร์ฟใหม่ไปเลยครับ 6.9 หน้าต่างนี้โปรแกรมจะให้เรา Format Partition ใหม่ ให้เราติ๊กเครื่องหมายถูกหน้าหัวข้อ Perform a Quick Format จะได้ไม่ต้องเสียเวลา 6.10 พอมาถึงหน้านี้ ก็แสดงว่าเรียบร้อยแล้วครับ 7. เมื่อกลับมาหน้าจอของ Computer Management เราจะเห็นว่ามีพาร์ทิชั่นว่างพร้อมใช้งานเพิ่มขึ้นมาอีก 24 GB ซึ่งมีขนาดเกือบเท่าของเดิมเลยทีเดียว อย่างรุ่นตัวอย่างนี้ ฮาร์ดดิสก์รุ่นที่เรานำมาใช้งานมีขนาด 40 GB แต่เมื่อผ่านกระบวนการ Modify มาแล้วก็เหมือนกับเราได้ฮาร์ดดิสก์ขนาด 80 GB มาใช้เลย มาถึงตอนนี้เราก็สามารถลบพาร์ทิชั่นแปลกๆ ที่ชื่อ VPSGHBOOT ขนาด 8 MB ได้แล้วครับ โดยคลิ๊กขวาที่พาทิชั่นเลือกเมนู Delete Partition ครับ ข้อควรระวัง 1. เราไม่สามารถจะยุบรวมพาร์ทิชั่นทั้ง 2 อันเข้าด้วยกันได้ เมื่อไหร่ที่คุณลบพาร์ทิชั่นใหม่ออกไปมันก็จะหายไปเลย ต้องทำการบวนการ Modify อีกครั้ง 2. ไม่แนะนำให้เก็บข้อมูลสำคัญๆ ไว้ในไดร์ฟใหม่นี้ครับ เพราะจากที่ได้พาร์ทิชั่นใหม่นี้มาทดลองใช้สักพัก พาร์ทิชั่นใหม่นี้ไม่ค่อยน่าไว้วางใจเท่าไหร่ เผลอข้อมูลอาจหายได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเหมาะที่จะกันไว้เก็บพวกไฟล์ Temporary มากกว่า ข้อควรสบายใจ การ Modiry ที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆกับพาร์ทิชั่นหลักของฮาร์ดดิสก์ ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลใจครับ ข้อมูลที่อยู่ในนั้นยังคงปลอดภัย (เว้นเสียแต่ว่าเกิดจากความผิดพลาดของเครื่องพีซีเอง) อีกข้อหนึ่งที่หายห่วงก็คือ Warranty ต่างๆยังคงสภาพเดิมอยู่ ยังดังการรับประกันยังคงสภาพเดิมครับใช้ได้เหมือนเดิม ซึ่งผมได้สอบถามจากบริษัทซีเกทแห่งประเทศไทย ต่อคำถามเบื้องต้นว่า การทำแบบนี้จะหมดประกันเรื่องไม่ ทางซีเกทตอบว่า การรับประกันยังคงอยู่ในเงื่อนไขเดิมถ้าหากว่าตัวบอดี้ไม่ชำรุด หรือสติ๊กเกอร์ Void ไม่เสียหาย ฮาร์ดดิสก์ตัวนั้นก็ยังคงรับประกันอยู่เช่นเดิม ไม่น่าเชื่อเลยจอร์จ มันทำได้อย่างไร ผมได้ลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ในอินเทอร์เน็ต ก็พบเพียงแต่วิธีทำที่เล่ามาทั้งหมด แต่ยังไม่พบเหตุผลที่จะมาอธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ เขาบอกว่าฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่ๆ ที่ผลิตออกมาในปัจจุบัน ทุกตัวมีความจุสูงเท่ากันหมดทุกสายการผลิต ไม่มีการแยกสายการผลิตอย่างที่เข้าใจ เนื่องจากต้นทุนในการผลิตระหว่างความจุต่ำและสูงนั้นไม่แตกต่างกันมาก ดังนั้นโรงงานจึงเลือกที่จะผลิตเฉพาะความจุสูงทั้งหมดเพื่อความคุ้มค่ากว่า ที่นี้ทำไมในตลาดถึงมีการจำหน่ายฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุต่างกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่าฮาร์ดดิสก์ความจุสูงที่ผลิตออกมา หลายพันหลายหมื่นตัวนั้น แต่ละตัวผ่านการทดสอบคุณภาพออกมาที่ความจุไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น โรงงานหนึ่งผลิตฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุ 200 GB เท่ากันทุกตัว พอส่งมาถึงขั้นทดสอบเพื่อระบุขนาดจริง บางตัวอาจจะผ่านที่ 40 GB บ้าง บางตัวอาจผ่านที่ 80 GB บ้าง และบางตัวอาจผ่านที่ 120 GB บ้าง หลังจากที่ได้ผ่านการทดสอบแล้ว ก็ค่อยโปรแกรมในแฟลชรอมให้มาเห็นเท่าความจุนั้นๆ แล้วตีตราออกวางจำหน่ายในตลาดตามความจุที่ผ่านการทดสอบนั้น หากว่าประเด็นข้างต้นเป็นจริงทั้งหมด ก็สามารถตอบโจทย์ได้ส่วนหนึ่งว่า พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ใหม่ที่เกิดขึ้น ได้มาจากฮาร์ดดิสก์ที่ไม่ผ่านการทดสอบนั่นเอง ที่มา : |